วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก 2554


ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก 2554
สอบในสนามหลวง๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
1. ว่า สูทั้งหลาย หมายถึงใคร ?
ก. พุทธบริษัท ข. สัตว์โลก
ค. คฤหัสถ์ ง. ภิกษุสงฆ์
ตอบ : ก
2. ว่า คนเขลา หมายถึงใคร ?
ก. คนไร้การศึกษา ข. คนไร้จรรยา
ค. คนไร้มารยาท ง. คนไร้พิจารณ์
ตอบ : ง
3. ว่า หมกอยู่ หมายถึงอาการเช่นใด ?
ก. ติดในสิ่งล่อใจ ข. เพลิดเพลินในสิ่งอันให้โทษ
ค. หลงในสิ่งอันอาจให้โทษ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ : ง
4. ว่า หาข้องอยู่ไม่ มีความหมายตรงกับอะไร ?
ก. ไม่พัวพันในสิ่งล่อใจ ข. ไม่ปรารถนาเกิดในโลก
ค. ไม่สนใจโลก ง. ไม่เกี่ยวข้องกับใคร
ตอบ : ก
5. พระพุทธเจ้า ทรงชักชวนให้พุทธบริษัทดูโลกอย่างไร ?
ก. ดูให้เห็นคุณและโทษ ข. ดูให้เพลิดเพลิน
ค. ดูให้สวยงาม ง. ดูให้ตระการตา
ตอบ : ก
6. อาการสรวมจิตตามหลักนิพพิทา คือข้อใด ?
ก. สรวมอินทรีย์  ข. ปิดใจไม่รับอารมณ์
ค. ปิดตาหูไม่ดูไม่ฟัง ง. ทใจมิให้หลงใหล
ตอบ : ก
7. กิเลสกามได้ชื่อว่ามาร เพราะเหตุใด ?
ก. ทให้เศร้าหมอง ข. ทให้หลงระเริง
ค. เป็นเครื่องจูงใจ ง. ล้างผลาญคุณความดี
ตอบ : ง
8. วัตถุกามจัดเป็นบ่วงแห่งมาร เพราะเหตุใด ?
ก. เพราะทจิตให้เศร้าหมอง ข. เพราะทจิตให้เข้มแข็ง
ค. เพราะทจิตให้อ่อนแอ ง. เพราะทจิตให้ลุ่มหลง
ตอบ : ง
9. เห็นสังขารว่าไม่เที่ยงแล้วเกิดความเบื่อหน่าย จัดเป็นอะไร ?
ก. ทิฏฐิวิปัลลาส ข. สมถกัมมัฏฐาน
ค. นิพพิทา ง. วิราคะ
ตอบ : ค
10. สังขารทั้งปวงล้วนตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใด ?
ก. ไตรลักษณ์ ข. ไตรสิกขา
ค. ไตรทวาร ง. ไตรรัตน์
ตอบ : ก
11. อนิจจลักษณะกหนดรู้ได้อย่างไร ?
ก. ตั้งอยู่ได้นาน ข. ตั้งอยู่ได้ชั่วขณะ
ค. ตั้งอยู่ในสภาพเดิม ง. ตั้งอยู่ในอนาจ
ตอบ : ข
12. คนมองไม่เห็นอนิจจลักษณะของสังขาร เพราะอะไรปิดบังไว้ ?
ก. ความสุข ข. ความทุกข์
ค. ความสืบต่อ ง. โลกธรรม
ตอบ : ค
13. ทุกขตา หมายถึงอะไร ?
ก. ความหน่ายในสังขาร ข. ความทนได้ยาก
ค. ความทนอยู่ไม่ได้ ง. ความไม่อยู่ในอนาจ
ตอบ : ข
14. พยาธิทุกข์ คือข้อใด ?
ก. ความเจ็บไข้ ข. ความเศร้าโศก
ค. ความคับแค้นใจ ง. ความหิวกระหาย
ตอบ : ก
15. ทุกข์เพราะผลกรรม จัดเป็นทุกข์ประเภทใด ?
ก. สภาวทุกข์ ข. ปกิณณกทุกข์
ค. สันตาปทุกข์ ง. วิปากทุกข์
ตอบ : ง
16. อาหารปริเยฏฐิทุกข์ คือข้อใด ?
ก. ทุกข์เพราะเจ็บไข้ ข. ทุกข์เพราะหิวกระหาย
ค. ทุกข์เพราะหาเลี้ยงชีวิต ง. ทุกข์เพราะทะเลาะวิวาท
ตอบ : ค
17. ถูกปลดจากตแหน่ง จัดเป็นทุกข์ประเภทใด ?
ก. สันตาปทุกข์ ข. วิปากทุกข์
ค. สหคตทุกข์ ง. วิวาทมูลกทุกข์
ตอบ : ค
18. ความเป็นอนัตตาแห่งสังขาร พึงกหนดรู้ด้วยอาการอย่างไร ?
ก. เป็นสภาพว่างเปล่า ข. เป็นของๆ เรา
ค. เป็นตัวของเรา ง. เป็นกลุ่มก้อน
ตอบ : ก
19. เพราะอะไรปิดบังไว้ จึงไม่เห็นสังขารเป็นอนัตตา ?
ก. สันตติ ข. อิริยาบถ
ค. ฆนสัญญา ง. อนิจจสัญญา
ตอบ : ค
20. ความเห็นสังขารเป็นอนัตตา มีประโยชน์อย่างไร ?
ก. ละความเห็นแก่ตัว ข. ละความทุกข์
ค. ละความกหนัด  ง. ละความถือมั่น
ตอบ : ง
21. การเห็นอนัตตาต้องมีอะไรกกับ จึงจะไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ?
ก. สติ สัมปชัญญะ ข. อนิจจสัญญา
ค. โยนิโสมนสิการ  ง. นิพพิทาญาณ
ตอบ : ค
22. เมื่อเกิดความหน่ายในสังขาร มีผลอย่างไร ?
ก. ทให้สงบ ข. ทให้หลุดพ้น
ค. ทให้ท้อแท้ ง. ทให้สิ้นกหนัด
ตอบ : ง
23. ความติดพันห่วงใยในอารมณ์อันเป็นที่รัก เรียกว่าอะไร ?
ก. ความอาลัย ข. ความอยาก
ค. ความเมา ง. ความระหาย
ตอบ : ก
24. ข้อว่า ธรรมยังความเมาให้สร่าง นั้น ได้แก่เมาอะไร ?
ก. เมาอายุ วัย ยศ ข. เมากิเลส ตัณหา ราคะ
ค. เมาสุราเมรัย ง. เมาสิ่งเสพติดให้โทษ
ตอบ : ก
25. ข้อว่า นเสียซึ่งความระหาย หมายความว่าอย่างไร
ก. กจัดความหิวได้ ข. กจัดตัณหาเสียได้
ค. กจัดความยากจนได้ ง. กจัดความทุกข์ร้อนได้
ตอบ : ข
26. เพราะสิ้นกหนัดแล้ว จิตย่อมหลุดพ้นจากอะไร ?
ก. ราคะ ข. ตัณหา
ค. อาสวะ ง. อุปาทาน
ตอบ : ค
27. อวิชชาสวะ ได้แก่ข้อใด ?
ก. ราคะ ข. โทสะ
ค. โมหะ ง. โลภะ
ตอบ : ค
28. ถือความศักดิ์สิทธิ์ไหว้จิ้งจกสามหาง สงเคราะห์เข้าในอาสวะใด ?
ก. กามาสวะ ข. ภวาสวะ
ค. อวิชชาสวะ ง. ผลาสวะ
ตอบ : ค
29. จิตหลุดพ้นจากกามตัณหา ชื่อว่าหลุดพ้นจากอาสวะใด
ก. กามาสวะ ข. ภวาสวะ
ค. อวิชชาสวะ ง. ผลาสวะ
ตอบ : ก
30. วิสุทธิคือความหมดจด ใครบันดาลให้ได้ ?
ก. พระเจ้า ข. เทพเจ้า
ค. ตนเอง ง. โหราจารย์
ตอบ : ค
31. เล็งเห็นสังขารว่าเป็นทุกข์ จัดเป็นญาณอะไร ?
ก. อุทยัพพยญาณ ข. ภังคญาณ
ค. อาทีนวญาณ ง. นิพพิทาญาณ
ตอบ : ค
32. ข้อใด จัดเข้าในจิตตวิสุทธิ ?
ก. เจรจาชอบ ข. พยายามชอบ
ค. การงานชอบ ง. เลี้ยงชีวิตชอบ
ตอบ : ข
33. ข้อใด จัดเป็นสีลวิสุทธิ ?
ก. ดริชอบ ข. พยายามชอบ
ค. การงานชอบ ง. ระลึกชอบ
ตอบ : ค
34. ข้อใด จัดเป็นสัมมากัมมันตะ ?
ก. ค้ามนุษย์ ข. ค้าประเวณี
ค. ขายประกัน ง. ขายของมึนเมา
ตอบ : ค
35. ข้อใด จัดเป็นสันติภายใน ?
ก. สงบกาย ข. สงบวาจา
ค. สงบใจ ง. สงบสุข
ตอบ : ค
36. อะไรจัดเป็นโลกามิส ในเรื่องสันติ ?
ก. ขันธ์ ๕ ข. กามคุณ ๕
ค. กิเลสกาม ง. กามฉันทะ
ตอบ : ข
37. เมื่อหน่ายสังขาร ย่อมเกิดอะไรขึ้น ?
ก. ไม่หลง ข. สิ้นกหนัด
ค. ไม่ฟุ้งซ่าน ง. สิ้นกิเลส
ตอบ : ข
38. นิพพาน แปลว่าอะไร ?
ก. ดับ ข. ปฏิสนธิ
ค. จุติ ง. อันตรธาน
ตอบ : ก
39. ว่า มีลูกศรอันถอนแล้ว เป็นคุณบทของใคร ?
ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี
ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์
ตอบ : ง
40. ว่า ดุจไฟสิ้นเชื่อแล้วย่อมดับไปเอง กล่าวถึงเรื่องใด
ก. ฌาน ข. สมาบัติ
ค. อภิญญา ง. นิพพาน
ตอบ : ง
41. ผู้เห็นภัยในความประมาท ชื่อว่าปฏิบัติใกล้ต่ออะไร ?
ก. สวรรค์ ข. พรหมโลก
ค. นิพพาน ง. เทวโลก
ตอบ : ค
42. การบรรลุนิพพาน มีผลอย่างไร ?
ก. เป็นสุขอย่างยิ่ง ข. รื่นรมย์อย่างยิ่ง
ค. เพลิดเพลินอย่างยิ่ง ง. ยินดีอย่างยิ่ง
ตอบ : ก
43. ข้อใด เป็นความหมายของสมถกัมมัฏฐาน ?
ก. วิธีทให้รู้แจ้ง ข. วิธีตัดกิเลส
ค. วิธีทใจให้สงบ ง. วิธีกจัดความมืด
ตอบ : ค
44. จิตที่เป็นสมาธิ มีลักษณะอย่างไร ?
ก. มีอารมณ์เดียว ข. ปราศจากความรู้สึก
ค. ปราศจากกิเลส ง. มีความเห็นแจ้ง
ตอบ : ก
45. ผู้เจริญกายคตาสติกัมมัฏฐาน ควรกหนดอะไรเป็นอารมณ์ ?
ก. ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ข. รูป เวทนา สัญญา สังขาร
ค. กาย เวทนา จิต ธรรม ง. ดิน น้ำ ลม ไฟ
ตอบ : ก
46. เมตตากัมมัฏฐานเหมาะแก่ใคร ?
ก. คนมักโกรธ ข. คนรักสวยรักงาม
ค. คนมักสงสัย ง. คนมักง่วงนอน
ตอบ : ก
47. การเจริญอสุภกัมมัฏฐาน เพื่อประโยชน์อย่างไร ?
ก. ไม่หลงติด ข. ไม่มีเวรภัย
ค. ไม่ทุจริต ง. มีความอดทน
ตอบ : ก
48. ปัญญาที่เห็นแจ้งชัดในอารมณ์ เรียกว่าอะไร ?
ก. สมถะ ข. วิปัสสนูปกิเลส
ค. วิปัสสนา ง. วิปัลลาส
ตอบ : ค
49. อะไรเป็นผลของการปฏิบัติวิปัสสนา ?
ก. ความบริสุทธิ์แห่งจิต ข. ความบริสุทธิ์ของความเห็น
ค. ความบริสุทธิ์ของปัญญา ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ : ง
50. ประโยชน์สูงสุดของการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน คืออะไร ?
ก. พ้นจากสังสารทุกข์ ข. กจัดพยาบาท
ค. กจัดความสงสัย ง. กจัดกามฉันทะ
ตอบ : ก
*********
เฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
1. 11. 21. 31. 41.
2. 12. 22. 32. 42.
3. 13. 23. 33. 43.
4. 14. 24. 34. 44.
5. 15. 25. 35. 45.
6. 16. 26. 36. 46.
7. 17. 27. 37. 47.
8. 18. 28. 38. 48.
9. 19. 29. 39. 49.
10. 20. 30. 40. 50.

พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นักเรียนได้อะไรบ้างจากพระที่เข้าไปสอนในโรงเรียน