วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เฉลยปัญหาวิชาอุโบสถศีล (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นโท สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๕๕

เฉลยปัญหาวิชาอุโบสถศีล (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นโท สอบในสนามหลวง พ.. ๒๕๕๕
คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกทีสุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อที่ต้องการ
ในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
๑. มนุษย์อยู่สงบสุขไม่เบียดเบียนกันทางกายวาจา เพราะมีข้อ ใด ?
ก. ทาน ข. ศีล
ค. สมาธิ ง. ปัญญา
๒. ก่อนสมาทานศีล พึงเปล่งวาจาถึงสิ่งใดว่าเป็นสรณะ ?
ก. พระรัตนตรัย ข. สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ค. พระพรหม ง. พระภูมิเจ้าที่
๓. พระรัตนตรัยมีความสำคัญต่อชาวพุทธ เพราะเหตุใด ?
ก. เป็นที่ออนวอน ข. เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ค. เป็นที่พึ่งที่ระลึกทางใจ ง. เป็นที่พึ่งทางกาย
๔. คำว่า พุทธะ มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ข. ผู้เสด็จไปดีแล้ว
ค. ผู้รู้แจ้งโลก ง. ผู้จำแนกธรรม
๕. พระพุทธเจ้าทรงปลุกมนุษย์ให้ตื่นจากอะไร ?
ก. กิเลส ข. กรรม
ค. วิบาก ง. เวร
๖. คำว่า สุคโต หมายถึงคุณของใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. พระอรหันต์
๗. คุณของพระสงฆ์ ตรงกับข้อ ใด ?
ก. เป็นผู้จำแนกธรรม ข. เป็นผู้รู้แจ้งโลก
ค. เป็นผู้ตื่น ง. เป็นผู้ปฏิบัติชอบ (ดี)
๘. สรณะ มีความหมายว่ากำจัดสิ่ง ใด ?
ก. กำจัดภัย ข. กำจัดโรค
ค. กำจัดศัตรู ง. กำจัดคู่แข่ง
๙. ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมย่อมได้รับผลเช่นไร ?
ก. ไม่ตกอบาย ข. ไม่ตามคนชั่ว
ค. ไม่ชดใช้กรรม ง. ไม่กลัวบาป
๑๐. ในอุโบสถศีล สรณะ หมายถึงอะไร ?
ก. พระรัตนตรัย ข. พระพุทธรูป
ค. พระเจดีย์ ง. พระคัมภีร์
๑๑. พรหมายุพราหมณ์ ถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นสรณะ ด้วยวิธีใด ?
ก. สมาทาน ข. มอบตนเป็นสาวก
ค. ทุ่มเทความเลื่อมใส ง. ปฏิบัติหน้าที่พทธบริษัท
๑๒. วิธีถึงสรณคมน์ที่มั่นคงที่สุด ตรงกับข้อ ใด ?
ก. สมาทาน ข. มอบตนเป็นสาวก
ค. ทุ่มเทความเลื่อมใส ง. ปฏิบัติหน้าที่พุทธบริษัท
๑๓. การขาดสรณคมน์ ในขอ้ ใดไม่มีโทษ ?
ก. ตาย ข. ทำร้ายพระศาสดา
ค. ไปนับถือศาสดาอื่น ง. ไม่มีข้อถูก
๑๔. เพราะเหตุใดการขโมยพระพุทธรูป จึงทำให้สรณคมน์เศร้าหมอง ?
ก. เพราะความไม่รู้ ข. เพราะเข้าใจผิด
ค. เพราะสงสัย ง. เพราะไม่เอื้อเฟื้อ
๑๕. สรณคมน์เศร้าหมองเพราะไม่เอื้อเฟื้อในพระสงฆ์ ตรงกับข้อใด ?
ก. ทำลายพระเจดีย์ ข. ไม่สนใจฟังธรรม
ค. ยุยงให้แตกแยก ง. ทำลายหนังสือธรรมะ
๑๖. ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะอย่างมั่นคง ย่อมไม่ไปเกิดในที่ใด ?
ก. พรหมโลก ข. สวรรค์
ค. มนุษยโลก ง. อบายภูมิ
๑๗. อุโบสถ แปลว่าอะไร ?
ก. การเข้าจำ ข. การหยุดงาน
ค. การเข้าวัด ง. การฟังธรรม
๑๘. ข้อใด เป็นจุดมุ่งหมายของการรักษาอุโบสถศีล ?
ก. เพื่อหยุดทำการงาน ข. เพื่อหาโอกาสพักผ่อน
ค. เพื่อขัดเกลากิเลส ง. เพื่อหาโอกาสฟังธรรม
๑๙. การรักษาอุโบสถ มีมาตั้ง แต่เมื่อใด ?
ก. ก่อนพุทธกาล ข. ต้นพุทธกาล
ค. ระหว่างพุทธกาล ง. หลังพุทธกาล
๒๐. การรักษาอุโบสถประเภทใด ใช้เวลานานที่สุ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ ง. อริยอุโบสถ
๒๑. ในปัญจอุโปสถชาดก งูสมาทานอุโบสถเพื่อข่มกิเลสใด ?
ก. ความรัก ข. ความโลภ
ค. ความโกรธ ง. ความหลง
๒๒. การรักษาอุโบสถศีลประเภทใด ถือเวลาเป็นเกณฑ์ ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. โคปาลกอุโบสถ
ค. นิคคัณฐอุโบสถ ง. อริยอุโบสถ
๒๓. ผู้รักษาอุโบสถศีล พึงปฏิบัติตนอย่างไร ?
ก. นั่งสมาธิ ข. ฟังเทศน์
ค. สวดมนต์ ง. ถูกทุกข้อ
๒๔. การล่วงอุโบสถศีล (ทำผิดศีล) เกิดขึ้นได้ทางทวารใด ?
ก. กาย ข. วาจา
ค. กายกับวาจา ง. กายกับใจ
๒๕. อุโบสถศีล มีกี่สิกขาบท ?
ก. ๕ สิกขาบท ข. ๘ สิกขาบท
ค. ๑๐ สิกขาบท ง. ๓๑๑ สิกขาบท
๒๖. อุโบสถประเภทใด รักษาเฉพาะวันหนึ่งคืนหนึ่ง ?
ก. ปาฏิหาริยอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปกติอุโบสถ ง. สามัคคีอุโบสถ
๒๗. อุโบสถกึ่งหนึ่ง หมายถึงอะไร ?
ก. รักษาศีลครึ่งวัน ข. รักษาศีลวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง
ค. รักษาศีลวันรับและวันส่ง ง. รักษาศีลครบ ๓ วัน
๒๘. อุโบสถชนิดใด มีอานิสงส์สูงสุด ?
ก. นิคคัณฐอุโบสถ ข. โคปาลกอุโบสถ
ค. อริยอุโบสถ ง. สามัคคีอุโบสถ
๒๙. โบราณกบัณฑิต รักษาอุโบสถเพื่อจุดประสงค์ใด ?
ก. ปลีกวิเวก ข. ข่มกิเลส
ค. ทรมานกาย ง. หนีความวุ่นวาย
๓๐. มานะนี้ของเรา เมื่อเจริญขึ้นมีแต่จะนำไปสู่นรกเป็นความคิดของใคร ?
ก. งู ข. สุนัขจิ้งจอก
ค. หมี ง. ฤาษี
๓๑. คำว่า ปาณะ ในปาณาติบาตนั้น ตรงกับข้อใด ?
ก. สัตว์ ข. เทวดา
ค. เปรต ง. อสุรกาย
๓๒. อุโบสถศีลข้อที่ ๑ ขาดลง เพราะองค์แห่งศีลข้อใด ?
ก. สัตว์มีชีวิต ข. จิตคิดจะฆ่า
ค. มีความพยายาม ง. สัตว์ตายด้วยความพยายาม
๓๓. อุโบสถประเภทใด นิยมรักษากันมากที่สุ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ ง. นิคคัณฐอุโบสถ
๓๔. โทษของการล่วงละเมดิ ศีลข้อที่ ๑ ตรงกับข้อ ใด ?
ก. เสียสติ ข. อายุสั้น
ค. ยากจน ง. คนนินทา
๓๕. เจตนาล่วงละเมิดอุโบสถศีลข้อที่ ๒ ตรงกับข้อ ใด ?
ก. ทำสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป ข. ถือเอาทรัพย์ที่เขาไม่ได้ให้
ค. ละเมิดคู่ครองคนอื่น ง. พูดให้ผู้อื่นเสียประโยชน์
๓๖. สิกขาบทที ๒ แห่งอุโบสถศีล มีคำกล่าวอย่างไร ?
ก. ปาณาติปาตา เวรมณี ข. อทินนาทานา เวรมณี
ค. อพฺรหฺมจริยา เวรมณี ง. มุสาวาทา เวรมณี
๓๗. การล่วงละเมิดอุโบสถศีลข้อที่ ๒ มีโทษอย่างไร ?
ก. เสียสติ ข. อายุสั้น
ค. ยากจน ง. คนนินทา
๓๘. อุโบสถศีลข้อที่ ๓ มุ่งให้คนละกิเลสข้อใด ?
ก. มานะ ข. ราคะ
ค. โทสะ ง. ทิฏฐิ
๓๙. การล่วงละเมิดอุโบสถศีลข้อที่ ๔ เกิดขึ้นได้ทางใด ?
ก. กายกับวาจา ข. กายกับใจ
ค. วาจากับใจ ง. กาย วาจา ใจ
๔๐. การล่วงละเมิดอุโบสถศีลข้อที่ ๔ มีโทษอย่างไร ?
ก. เสียสติ ข. ขาดคนเชื่อถือ
ค. ถูกทำร้าย ง. คนคิดปองร้าย
๔๑. เครื่องดื่มต้องห้ามในอุโบสถศีลข้อที่ ๕ ตรงกับข้อใด ?
ก. กาแฟ ข. เมรัย
ค. น้ำชา ง. น้ำอัดลม
๔๒. การรักษาอุโบสถศีลข้อที่ ๕ มุ่งถึงประโยชน์เรื่องใด ?
ก. ความสามัคคี ข. ความสัตย์
ค. ความไม่ประมาท ง. ความมีน้ำใจ
๔๓. อุโบสถศีลข้อที่ ๖ ไม่ให้ทำเรื่องใดในเวลาวิกาล ?
ก. ประพฤติผิดพรหมจรรย์ ข. กินของขบเคี้ยว
ค. ประดับตกแต่งกาย ง. นอนที่นอนสูงใหญ่
๔๔. การรักษาอุโบสถศีลข้อที่ ๖ เพื่อบรรเทากิเลสข้อใด ?
ก. วิจิกิจฉา ข. กามราคะ
ค. พยาบาท ง. มานะ ทิฏฐิ
๔๕. ผู้รักษาอุโบสถศีล ต้องเว้นการดูการละเล่น เพราะเหตุใด ?
ก. เป็นข้าศึกแก่ฌาน ข. เป็นข้าศึกแก่สมาบัติ
ค. เป็นข้าศึกแก่กุศล ง. เป็นข้าศึกแก่อกุศล
๔๖. การไล้ทาของหอมเพื่อ จุดมุ่งหมายใด ได้ชื่อว่าไม่ล่วงละเมิดอุโบสถศีลข้อ ๗ ?
ก. เพื่อรักษาโรค ข. เพื่อให้มีกลิ่นหอม
ค. เพื่อให้สวยงาม ง. เพื่อให้สบายตัว
๔๗. การงดเว้นการนอนบนที่นอนสูงใหญ่ มุ่งบรรเทากิเลสใด ?
ก. ความเห็นแก่ตัว ข. ความอาฆาตพยาบาท
ค. ความลุ่มหลงงมงาย ง. ความกำหนัดยินดี
๔๘. ข้อว่าศีลสามารถสร้างสวรรค์แก่มนุษย์ได้ ในวิสาขาสูตร พระพุทธเจ้าตรัสแก่ ?
ก. นางสุชาดา ข. นางสามาวดี
ค. นางวิสาขา ง. นางสุธัมมา
๔๙. เรื่องภายนอกที่ไม่ควรนำมาพูดในขณะถืออุโบสถ คืออะไร ?
ก. อนุปุพพีกถา ข. ติรัจฉานกถา
ค. สัมโมทนียกถา ง. อริยวงศ์กถา
๕๐. อุโบสถศีลที่รักษาดีแล้วย่อมให้อานิสงส์แก่มนุษย์อย่างไร ?
ก. ให้บังเกิดในสวรรค์ ข. ให้มีความเสมอภาคกัน
ค. ให้มีความปลอดภัย ง. ถูกทุกข้อ
----------------------------------

เฉลยวิชาวินัย ธรรมศึกษาชั้นโท พ.ศ.๒๕๕๕
๑. ข
๒. ก
๓. ค
๔. ก
๕. ก
๖. ก
๗. ง
๘. ก
๙. ก
๑๐. ก
๑๑. ค
๑๒. ง
๑๓. ก
๑๔. ง
๑๕. ค
๑๖. ง
๑๗. ก
๑๘. ค
๑๙. ก
๒๐. ค
๒๑. ค
๒๒. ก
๒๓. ง
๒๔. ค
๒๕. ข
๒๖. ค
๒๗. ก
๒๘. ค
๒๙. ข
๓๐. ง
๓๑. ก
๓๒. ง
๓๓. ก
๓๔. ข
๓๕. ข
๓๖. ข
๓๗. ค
๓๘. ข
๓๙. ก
๔๐. ข
๔๑. ข
๔๒. ค
๔๓. ข
๔๔. ข
๔๕. ค
๔๖. ก
๔๗. ง
๔๘. ค
๔๙. ข
๕๐. ง



พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน

เฉลยปัญหาวิชาอนุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้น โท สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๕๕

เฉลยปัญหาวิชาอนุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้น โท สอบในสนามหลวง พ.. ๒๕๕๕
คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อที่ต้องการ
ในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
๑. ข้อใด เป็นความหมายของคำว่า อนุพุทธะ ?
ก. พระสาวกผู้ติดตามพระพุทธเจ้า
ข. พระสาวกผู้ประพฤติตามพระพุทธเจ้า
ค. พระสาวกผู้บวชตามพระพุทธเจ้า
ง. พระสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า
๒. นับตั้ง แต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ถึง พ.ศ.๒๕๕๕ นับเป็นเวลากี่ปี ?
ก. ๒๕๕๕ ปี ข. ๒๖๐๐ ปี
ค. ๒๖๓๕ ปี ง. ๒๖๔๐ ปี
๓. การได้รับยกย่องว่า เป็นผู้เลิศในทางนั้น ๆ ตรงกับข้อใด ?
ก. อริยบุคคล ข. อริยสาวก
ค. เอตทัคคะ ง. พหูสูต
๔. อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ แปลว่าอย่างไร ?
ก. โกณฑัญญะบรรลุแล้วหนอ ข. โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ
ค. โกณฑัญญะเห็นแล้วหนอ ง. โกณฑัญญะปลงแล้วหนอ
๕. ปัญจวัคคีย์ทอดทิ้งพระมหาบุรุษไป เพราะสาเหตุใด ?
ก. สิ้นความรัก ข. สิ้นความหวัง
ค. สิ้นความอดทน ง. สิ้นความเพียร
๖. วาจาเช่นนี้เราได้เคยพูดแล้วในปางก่อนหรือ ใครกล่าว ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระโกณฑัญญะ
ค. พระอัสสชิ ง. พระสารีบุตร
๗. พระอัญญาโกณฑัญญะ เผยแผ่พระศาสนาครั้ง แรกที่ใด ?
ก. พาราณสี ข. กบิลพัสดุ์
ค. โทณวัตถุคาม ง. อุรุเวลาเสนานิคม
๘. พระอัญญาโกณฑัญญะ ก่อนบวชเป็นผู้เชียวชาญในศาสตร์ใด ?
ก. ศิลปศาสตร์ ข. ดาราศาสตร์
ค. โหราศาสตร์ ง. ไสยศาสตร์
๙. พระสาวกรูปใด เป็นกำลังสำคัญในการประกาศศาสนาที่แคว้นมคธ ?
ก. พระอัญญาโกณฑัญญะ ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระอุรุเวลกัสสปะ ง. พระยสะ
๑๐. อุปติสสปริพาชก เห็นพระอัสสชิครั้ง แรกในขณะใด ?
ก. ขณะนั่งสมาธิ ข. ขณะแสดงธรรม
ค. ขณะเดินบิณฑบาต ง. ขณะเดินจงกรม
๑๑. อุปติสสะ และโกลิตะ บวชเป็นปริพาชกในสำนักของใคร ?
ก. อชิตเกสกัมพล ข. สัญชัยเวลัฏฐบุตร
ค. ปูรณกัสสปะ ง. มักขลิโคศาล
๑๒. พระสาวกรูปใด เปรียบเหมือนแม่นมเลี้ยงดูบุตร ?
ก. พระโมคคัลลานะ ข. พระสารีบุตร
ค. พระมหากัสสปะ ง. พระอุรุเวลกัสสปะ
๑๓. โกลิตปริพาชกและพระโมคคัลลานะ เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
ก. เป็นพี่น้องกัน ข. เป็นสหายกัน
ค. เป็นศิษย์กับอาจารย์ ง. เป็นบุคคลเดียวกัน
๑๔. พระอุรุเวลกัสสปะ บวชในพระพุทธศาสนาเพราะสาเหตุใด ?
ก. พระพุทธเจ้าทรมานด้วยฤทธิ์
ข. กลัวอภินิหารของพระพุทธเจ้า
ค. พระพุทธเจ้าทรงขอร้องให้บวช
ง. เห็นว่าลัทธิของตนไม่มีแก่นสาร
๑๕. ปิปผลิมาณพ เห็นโทษในการครองเรือนอย่างไรจึงได้ออกบวช ?
ก. ต้องรับผิดชอบมาก ข. ต้องคอยรับบาปคนอื่น
ค. ต้องทำแต่บาปกรรม ง. ต้องพัวพันกับเรื่องกาม
๑๖. ฆราวาสคับแคบ เป็นที่มาแห่งกิเลสธุลีเป็นคำพูดของใคร ?
ก. พระมหากัจจายนะ ข. พระมหากัปปินะ
ค. พระมหานามะ ง. พระมหากัสสปะ
๑๗. กัจจายนพราหมณ์ เคยดำรงตำแหน่งปุโรหิตของใคร ?
ก. พระเจ้าปเสนทิโกศล ข. พระเจ้าจัณฑปัชโชต
ค. พระเจ้าพมิ พิสาร ง. พระเจ้าโกรัพยะ
๑๘. ใครเป็นอาจารย์ของมาณพ ๑๖ คน มีอชิตมาณพ เป็นต้น ?
ก. โสตถิยพราหมณ์ ข. พาวรีพราหมณ์
ค. วัสสการพราหมณ์ ง. โทณพราหมณ์
๑๙. พระสารีบุตร บวชให้ใครที่เคยถวายข้าวทัพพีหนึ่งแก่ตน ?
ก. ราธพราหมณ์ ข. พาวรีพราหมณ์
ค. ปิงคิยพราหมณ์ ง. โสตถิยพราหมณ์
๒๐. พระสาวกรูปใด เป็นยอดแห่งผู้ว่าง่ายในพระธรรมวินัย ?
ก. พระอนุรุทธะ ข. พระนันทะ
ค. พระราธะ ง. พระฉันนะ
๒๑. พระสาวกรูปใด เป็นสหชาติเกิดวันเดียวกับพระพุทธเจ้า ?
ก. พระกาฬุทายี ข. พระสีวลี
ค. พระอุบาลี ง. พระนันทะ
๒๒. พระบรมศาสดา ทรงยกย่องพระราหุลว่าเป็นผู้เลิศในด้านใด ?
ก. พหูสูต ข. มีตระกูลสูง
ค. ใฝ่การศึกษา ง. ทรงพระวินัย
๒๓. ทุกข์เพราะถูก พรากจากคนรัก เกิดขึ้นกับพระสาวกรูปใด ?
ก. พระอนุรุทธะ ข. พระอานนท์
ค. พระนันทะ ง. พระภัททิยะ
๒๔. พระสาวกรูปใด บวชแล้ว มักเปล่งอุทานว่า สุขหนอๆ” ?
ก. พระอนุรุทธะ ข. พระอานนท์
ค. พระภัททยิ ะ ง. พระยสะ
๒๕. พระสาวกรูปใด มีภารกิจมาก จึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์ช้า ?
ก. พระสารีบุตร ข. พระโมคคัลลานะ
ค. พระอานนท์ ง. พระอนุรุทธะ
๒๖. พระสาวกรูปใด ไม่รูจั้กคำว่า ไม่มี” ?
ก. พระอนุรุทธะ ข. พระอานนท์
ค. พระภัททยิ ะ ง. พระสีวลี
๒๗. พระสาวกรูปใด รับปากพี่ชายว่าจะบวชเป็นตัวแทนตระกูล ?
ก. พระอานนท์ ข. พระภัททิยะ
ค. พระอนุรุทธะ ง. พระมหานามะ
๒๘. พระมหาสาวกที่อยู่ในขณะพระศาสดาปรินิพพาน ได้แก่ข้อใด ?
ก. พระอานนท์-พระอนุรุทธะ ข. พระสารีบุตร-พระอนุรุทธะ
ค. พระอุบาลี-พระมหากัสสปะ ง. พระโมฆราช-พระสุภัททะ
๒๙. พระสาวกรูปใด บำเพ็ญเพียรเดินจงกรมถึงกับเท้า เข่ามือแตก ?
ก. พระโสณกุฏิกัณณะ ข. พระโสณโกฬิวิสะ
ค. พระจูฬปันถกะ ง. พระมหาปันถกะ
๓๐. พระสาวกรูปใด กว่าจะบวชได้ต้องใช้ชีวิตเข้าแลก ?
ก. พระมหากัจจายนะ ข. พระกาฬุทายี
ค. พระทัพพมัลลบุตร ง. พระรัฐบาล
๓๑. พระสาวกรูปใด ตอบคำถามพระเจ้าอุเทนเรื่องพระภิกษุหนุ่มบวชอยู่ได้นาน ?
ก. พระปิณโฑลภารทวาชะ ข. พระทัพพมัลลบุตร
ค. พระโสณโกฬิวิสะ ง. พระโสณกุฏิกัณณะ
๓๒. พรข้อสุดท้ายที่พระอานนท์ทูลขอพระพุทธเจ้า คือข้อใด ?
ก. อย่าประทานจีวรอันประณีต
ข. อย่าพาไปในที่นิมนต์
ค. ถามข้อสงสัยได้ทุกเวลา
ง. เมื่อไม่อยู่ในที่นั้นขอให้แสดงธรรมซ้ำอีกครั้ง
๓๓. วัดเชตวัน ในกรุงสาวัตถี ใครเป็นคนสร้างถวาย ?
ก. พระเจ้าปเสนทิโกศล ข. พระเจ้าพิมพิสาร
ค. นางวิสาขา ง. อนาถปิณฑิกเศรษฐี
๓๔. พระสีวลี เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านใด ?
ก. มีลาภมาก ข. มีบริวารมาก
ค. มีบุญมาก ง. มีปัญญามาก
๓๕. สาเหตุใด ทำให้พระโสณกุฏิกัณณะต้องบวชเป็นสามเณรนานถึง ๓ ปี ?
ก. อายุยังไม่ครบ ข. มารดาบิดาไม่อนุญาต
ค. พระอุปัชฌาย์ไม่บวชให้ ง. มีภกิษุไม่ครบ ๑๐ รูป
๓๖. พระจูฬปันถก บรรลุพระอรหัตด้วยวิธีใด ?
ก. บริกรรมผ้าขาว ข. ฟังธรรม
ค. เจริญอสุภะ ง. เห็นผมหงอก
๓๗. ข้อใด เป็นแรงจูงใจให้พระวังคีสะเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ?
ก. ฟังธรรมเกิดศรัทธา ข. ต้องการเรียนมนต์
ค. เห็นโทษการครองเรือน ง. เห็นอานิสงส์ในการบวช
๓๘. พระสาวกรูปใด มีความชำนาญในการระลึกชาติ ?
ก. พระพากุละ ข. พระมหากัปปินะ
ค. พระโสภิตะ ง. พระรัฐบาล
๓๙. พระสาวกรูปใดใช้เตโชกสิณ ปราบอัมพติตถนาคราชให้สิ้นฤทธิ์ ?
ก. พระมหาโกฏฐิตะ ข. พระสาคตะ
ค. พระโมคคัลลานะ ง. พระอนุรุทธะ
๔๐. พระสาวกรูปใดมีอายุยืน เพราะอานิสงส์ถวายเวจกุฎีและยา ?
ก. พระอานนท์ ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระพากุละ ง. พระวักกลิ
วิชาศาสนพิธี
๔๑. การทำวัตรสวดมนต์ มีความมุ่งหมายอย่างไร ?
ก. เป็นการละกิเลส ข. เป็นอุบายสงบจิต
ค. ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ง. เห็นแจ้งในกองทุกข์
๔๒. คำนมัสการพระรัตนตรัย เริ่มต้นด้วยคำว่าอะไร ?
ก. นโม ตสฺส ภควโต ข. อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา
ค. สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ง. สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ
๔๓. การยินยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ เรียกว่าอะไร ?
ก. การขอขมา ข. การทำวัตร
ค. สามีจิกรรม ง. ปวารณากรรม
๔๔. อุโบสถกรรม ที่พระภิกษุร่วมกันทำ ๔ รูปขึ้นไป เรียกว่าอะไร ?
ก. ศีลอุโบสถ ข. อธิษฐานอุโบสถ
ค. ปาริสุทธิอุโบสถ ง. สังฆอุโบสถ
๔๕. ผ้ากฐิน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทาน
ยังวัดราษฎร์เป็นการส่วนพระองค์ เรียกว่าอะไร ?
ก. กฐินหลวง ข. กฐินราษฎร์
ค. กฐินพระราชทาน ง. พระกฐินต้น
๔๖. การทำบุญต่อนาม หมายถึงอะไร ?
ก. งานทำบุญในปั้นปลายชีวิต ข. งานทำบุญที่ญาติจัดให้ผู้ป่วย
ค. งานทำบุญครบรอบอายุ ง. งานทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ
๔๗. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร นิยมสวดในงานอะไร ?
ก. มงคลสมรส ข. ทำบุญอายุครบรอบ
ค. ขึ้นบ้านใหม่ ง. ฉลองพระบวชใหม่
๔๘. ทักษิณานุประทาน หมายถึงการทำบุญอะไร ?
ก. สะเดาะเคราะห์ ข. ขึ้นบ้านใหม่
ค. อุทิศส่วนกุศล ง. คล้ายวันเกิด
๔๙. ผ้าป่าในสมัยพุทธกาล เรียกว่าอะไร ?
ก. ผ้าบังสุกุลจีวร ข. ผ้าอาบน้ำฝน
ค. ผ้าอัจเจกจีวร ง. ผ้าวัสสิกสาฎก
๕๐. ผ้าวัสสิกสาฎก คือผ้าเช่นไร ?
ก. ผ้าเช็ดหน้า ข. ผ้าเช็ดเท้า
ค. ผ้าอาบน้ำฝน ง. ผ้าปูนั่ง

--------------------------------
เฉลยวิชาพุทธ ธรรมศึกษาชั้นโท พ.ศ.๒๕๕๕
๑. ง
๒. ข
๓. ค
๔. ข
๕. ข
๖. ก
๗. ค
๘. ค
๙. ค
๑๐. ค
๑๑. ข
๑๒. ก
๑๓. ง
๑๔. ง
๑๕. ข
๑๖. ง
๑๗. ข
๑๘. ข
๑๙. ก
๒๐. ค
๒๑. ก
๒๒. ค
๒๓. ค
๒๔. ค
๒๕. ค
๒๖. ก
๒๗. ค
๒๘. ก
๒๙. ข
๓๐. ง
๓๑. ก
๓๒. ง
๓๓. ง
๓๔. ก
๓๕. ง
๓๖. ก
๓๗. ข
๓๘. ค
๓๙. ข
๔๐. ค
๔๑. ข
๔๒. ข
๔๓. ง
๔๔. ง
๔๕. ง
๔๖. ข
๔๗. ข
๔๘. ค
๔๙. ก
๕๐. ค

พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน